|
กระดานสนทนา
รวมพลังหารสอง |
100,000 บาท ต่อนาที หนี้ที่คุณต้องจ่ายคืน |
คุณทราบหรือไม่ว่า งบประมาณกว่า 3-4 แสนล้านบาทต่อปี ประเทศไทยต้องหมดไปกับการนำเข้าน้ำมันดิบ ซึ่งกว่า 95 % ต้องใช้บริโภคในประเทศ เพื่อให้คนไทยมีน้ำมันใช้อย่างไม่ขาดแคลน
ปัจจุบัน คนไทยกำลังเผชิญกับราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น จากอดีตที่คนไทยเคยใช้น้ำมันเบนซิน เพียงลิตรละ 15 บาท น้ำมันดีเซล ลิตรละ 13 บาท แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันตามความจริง ที่ประชาชนต้องจ่ายนั้น ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากตามราคาตลาดโลก โดยราคาน้ำมันเบนซิน จะอยู่ที่ระดับ 19.66 บาทต่อลิตร และราคาดีเซล อยู่ที่ระดับ 15.52 บาทลิตร ทำให้ประเทศไทยต้องรับภาระหนักขึ้นอีก ในการนำเข้าน้ำมันราคาแพง
เพื่อไม่ให้ระดับราคาสูงขึ้นจนเกินไป รัฐบาลจึงได้ตัดสินใจประกาศการตรึงราคาน้ำมันทุกชนิด โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2547 สำหรับเบนซินออกเทน 95 อยู่ที่ระดับ 16.99 บาทต่อลิตร เบนซินออกเทน 91 อยู่ที่ระดับ 16.19 บาทต่อลิตร และดีเซลหมุนเร็ว อยู่ที่ระดับ 14.59 บาทต่อลิตร ซึ่งหมายถึงน้ำมันเบนซินลดลงทันที 80 สตางค์ต่อลิตร และดีเซลหมุนเร็ว 10 สตางค์ต่อลิตร
ส่วนวิธีการที่รัฐนำมาใช้ คือ นำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้ามาช่วยตรึงราคา และชดเชยให้กับโรงกลั่นน้ำมันตามราคาตลาดโลกที่เกิดขึ้นจริง จนกระทั่งเมื่อราคาน้ำมันกลับเข้าสู่ภาวะปกติและต่ำกว่าเพดานที่รัฐกำหนดไว้ รัฐก็จะนำเงินเก็บเข้ากองทุนฯ แทน
นับจากวันที่รัฐเริ่มตรึงราคาน้ำมัน ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2547 จนถึงปัจจุบันในอัตราสูงสุดนาทีละ 1 แสนบาท หรือวันละประมาณ 120 ล้านบาท ซึ่งการตรึงราคาน้ำมันที่ผ่านมา 10 วัน รัฐได้จ่ายเงินไปแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ประชาชนจะต้องมาจ่ายใช้หนี้คืนเมื่อเวลาน้ำมันลดลงนั่นเอง
ดังนั้น วิธีการที่ประชาชนทุกคนจะช่วยให้เราจ่ายเงินชดเชยราคาน้อยลง ก็ต้องเป็นวิธีการประหยัดน้ำมัน เพื่อประหยัดเงินในกระเป๋าเรา และประหยัดเงินค่าน้ำมันที่เราต้องจ่ายให้ต่างประเทศ ด้วยวิธีการง่ายๆ เพียงแค่ปรับพฤติกรรมการใช้รถยนต์ของคุณ เช่น ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง การดูแลรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่สภาพดีเสมอ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามภาครัฐ ก็ได้มีทางเลือกในการประหยัดเงินในกระเป๋าประชาชนในทันที โดยการเลือกเติมน้ำมันก๊าซโซฮอล์ ซึ่งราคาถูกกว่าเบนซินลิตรละ 50 สตางค์ ที่ ปั๊ม ปตท. และปั๊มบางจาก ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 168 ปั๊ม นอกจากนั้น ยังมีการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ด้วยการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติในยานยนต์ (NGV) แทนการใช้น้ำมันด้วย
วันนี้ จำเป็นอย่างยิ่งแล้วที่คุณต้องหันมาประหยัดน้ำมัน และช่วยกันใช้อย่างประหยัด อย่างน้อยเพื่อเป็นการลดภาระกระเป๋าชาติ และกระเป๋าเงินคุณด้วย
แหล่งที่มา : http://www.eppo.go.th/admin/pr-oil/100000b.html |
จากคุณ Wit-Tha-Ya
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 47
เวลา 12:00:28
|
|
|
|
|
Copyright © 2002-3 All Rights Reserved. King Mongkut's University of Technology Thonburi |
|
|
|